บรรเลงบทเพลงจากกวีนิพนธ์ ซาร่าเมษา ในไม่ช้าเขาก็ลงเอยด้วยการย้ายเนื้อร้องของเขาเป็นร้อยแก้ว โดยเน้นที่นวนิยายเป็นหลัก โดยให้ผลลัพธ์อันมีค่าในรูปแบบปกติและลึกซึ้งในเบื้องหลังของการเล่าเรื่อง
จากผลที่ได้ ถือได้ว่าการทำให้เป็นรูปธรรมของผู้เขียนงอกเงยมาจากรากเหง้าในข้อ ให้เสียงของผู้บรรยายโดยมีเครื่องหมายแตกต่างออกไป ฉันจำได้แล้ว Benjamín Prado หรือเพื่อ คาร์ลอสซานอนผู้เขียนบรรณานุกรมที่หลากหลายซึ่งมาจากโลกแห่งบทกวี
ในกรณีของ Sara Mesa เนื้อเรื่องจากข้อหนึ่งไปยังย่อหน้ากลายเป็นอาชีพที่ยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ
ด้วยการจู่โจมล่าสุดในการซ้อม Sara Mesa เป็นหนึ่งในนักเขียนที่เก่งกาจอยู่แล้วมุ่งมั่น (ตามที่พวกเขาพูด) ในการถ่ายโอนวิสัยทัศน์พงศาวดารของพวกเขาในสมัยของเรา ด้วยภาพอันทรงพลังของเธอ เต็มไปด้วยรูปภาพ Sara Mesa เขียนเกี่ยวกับโลกที่แยกจากกันเสมอ รอการค้นพบอีกครั้งโดยผู้อ่านที่ค้นพบความแฝงที่ซ่อนอยู่ของโลก กลไกสำคัญของความเป็นจริงของเราที่มีเพียงนักเขียนที่มีจิตวิญญาณของกวีเท่านั้นที่รู้ วิธีการนำเสนอเรา
3 นวนิยายแนะนำโดย Sara Mesa
ทั้งครอบครัว
ห้องขังของสังคมยุคใหม่ ดังที่นักคิดบางคนกล่าวไว้ และต่อมาได้จำลองความเลวร้ายทั้งหมดไว้ในเพลงที่เจ็บปวดของพวกเขา และนั่นคือส่วนที่ต้องกล่าวถึงในนวนิยายที่เคารพตนเอง เพราะมีช่องว่างที่ทำร้ายกันในครอบครัว สถานที่ทั่วไปและในขณะเดียวกันก็แตกต่างกันมากซึ่งจำลองมาจากบ้านที่ใดก็ได้ในโลก
นวนิยายที่เชื้อเชิญให้เราแอบมองเข้าไปในหน้าต่างที่ห่างไกลซึ่งสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวได้ในแสงสลัว ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นฉากของมนุษยชาติเกิดขึ้น เช่น การแสดงละครโศกนาฏกรรมที่เหนือจินตนาการ
"ในครอบครัวนี้ไม่มีความลับ!" กล่าวไว้ในตอนต้นของหนังสือเล่มนี้ ดาเมียน ผู้เป็นบิดา ผู้มีความคิดตายตัวและอุดมคติหมกมุ่นอยู่กับความถูกต้องและการสอน แต่บ้านที่ไม่มีความลับกลับเต็มไปด้วยรอยร้าว และการกดขี่ที่ระบายอยู่ภายในกำแพงจะจบลงด้วยการสร้างทางหนี รหัสลับ การปกปิด การเสแสร้ง และการโกหก
ประกอบด้วยเด็กหญิงสองคน เด็กชายสองคน แม่และพ่อ ครอบครัวที่ดูเหมือนปกติ ชนชั้นแรงงาน และเต็มไปด้วยความตั้งใจดีนี้ คือตัวเอกของนวนิยายการร้องเพลงประสานเสียงที่มีอายุยาวนานหลายสิบปี และเรื่องราวที่เอาชนะความปรารถนาเสรีภาพและการวิจารณ์ ของเสาหลักที่สนับสนุนแบบดั้งเดิมและยังคงสนับสนุนสถาบันครอบครัวเป็นส่วนใหญ่: เผด็จการและการเชื่อฟัง ความละอายใจและความเงียบงัน
Sara Mesa แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเธอมีสายตาทางคลินิกในการเปลื้องผ้าพฤติกรรมของมนุษย์ ตรวจจับบาดแผลที่ซ่อนอยู่ และแสดงให้เห็นความซับซ้อนทั้งหมดของความเปราะบาง ความขัดแย้ง และความอ่อนแอที่ทำให้เราท้อแท้ หนังสือเล่มนี้เป็นการพลิกโฉมใหม่ในการสร้างหนึ่งในจักรวาลวรรณกรรมที่ทรงพลังที่สุดของจดหมายภาษาสเปนในปัจจุบัน และการยืนยันความสามารถที่ไม่หยุดเติบโต
รักเดียว
บางครั้งภาษาครอบงำเราด้วยความร่ำรวย ไร้ความสามารถ ทั้งๆ ที่มีคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบ คำที่เหมาะสม หรือความหมายที่ส่องสว่างซึ่งแสดงทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวเรา นี่เป็นแบบฝึกหัดการเล่าเรื่องที่ขจัดความทุกข์ยากเหล่านั้น การลาออกที่ยอดเยี่ยม การยอมจำนนต่อหน้าการก้าวข้ามแนวคิดที่เป็นไปไม่ได้จากการแสดงออกที่จำกัดของภาษาใดๆ ความรักจะเป็นบันทึกที่ไม่สามารถไปถึงได้ แต่เป็นเพียงจุดจบหรือจุดเริ่มต้นของข้อจำกัดอันน่าเหลือเชื่อที่แม้จะมีทุกอย่าง แต่ก็ยังมีภาพโมเสคของความเป็นมนุษย์ที่คลั่งไคล้ในการค้นหาขอบเขตอันไกลโพ้นที่ไม่อาจบรรลุได้ มันไม่เกี่ยวกับความยิ่งใหญ่หรือความครึกโครม แต่เกี่ยวกับรายละเอียด แก่นแท้ และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่ซึ่งความจริงอันน่าตกตะลึงนั้นแฝงอยู่ซึ่งทำให้เรามีความงามที่น่าเศร้าอย่างแปลกประหลาดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เรื่องราวของ Un amor เกิดขึ้นใน La Escapa เมืองชนบทเล็กๆ ที่ Nat ซึ่งเป็นนักแปลอายุน้อยและไม่มีประสบการณ์เพิ่งย้ายเข้ามา เจ้าของบ้านซึ่งให้สุนัขกับเธอเพื่อเป็นการต้อนรับ ในไม่ช้าก็จะแสดงสีที่แท้จริงของเขา และความขัดแย้งรอบ ๆ บ้านเช่า – โครงสร้างที่ไม่ดี เต็มไปด้วยรอยแตกและการรั่วไหล – จะกลายเป็นความหลงใหลอย่างแท้จริงสำหรับเธอ ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เหลือ - เด็กหญิงจากร้าน, ปิเตอร์ ฮิปปี้, โรเบอร์ตาแก่และบ้าไปแล้ว, แอนเดรียส ชาวเยอรมัน, ครอบครัวในเมืองที่ใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่นั่น - จะต้อนรับแนทด้วยความปกติที่เห็นได้ชัด ขณะที่ไม่เข้าใจและไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ตีในพื้นหลัง
La Escapa ซึ่งมีภูเขา El Glauco อยู่เสมอ ท้ายที่สุดแล้วจะมีบุคลิกที่กดขี่และสับสน ซึ่งจะเผชิญหน้า Nat ไม่เพียงแต่กับเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวเธอเองและความล้มเหลวของเธอด้วย เต็มไปด้วยความเงียบและความเข้าใจผิด ของอคติและความเข้าใจผิด ข้อห้ามและการล่วงละเมิด Un amor กล่าวถึงปัญหาของภาษาโดยปริยายแต่ไม่ต่อเนื่องในรูปแบบของการสื่อสาร แต่เป็นการกีดกันและความแตกต่าง
Sara Mesa เผชิญหน้ากับผู้อ่านอีกครั้งด้วยข้อจำกัดทางศีลธรรมของเธอในงานที่มีความทะเยอทะยาน เสี่ยง และแข็งแกร่ง ซึ่งราวกับว่ามันเป็นโศกนาฏกรรมกรีก แรงกระตุ้นที่ไม่คาดคิดที่สุดของตัวเอกจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในขณะที่ชุมชนสร้างมาคู่ขนานกัน แพะรับบาปของมัน
ภาพยนตร์ดัดแปลงของอิซาเบล โคเซต์นำเสนอจุดหักมุมใหม่ๆ ในพล็อตเรื่องนี้ และประวัติศาสตร์มักจะนำเสนอความเป็นไปได้ใหม่ๆ สำหรับสถานการณ์ที่หลากหลายและข้อได้เปรียบที่น่าประหลาดใจอยู่เสมอ
หน้าขนมปัง
เนื่องจากเกือบและ El Viejo ได้พบกัน เราจึงถือว่าไม่เหมาะสม หรืออย่างน้อยก็ไม่เหมาะสม และนั่นคือตอนที่ Sara Mesa ชนะใจเราในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่ร่างไว้จากมุมมองทางศีลธรรม
เพราะใช่ การที่ผู้ใหญ่จะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงนั้นไม่เหมาะสม แม้จะเป็นลางร้ายตั้งแต่แรกเห็นก็ตาม แต่นอกเหนือจากความรักแล้ว Sara Mesa ยังนำเราไปสู่ความหมายอื่นๆ ของสัญลักษณ์ที่สั่นคลอนโทเท็มทางจริยธรรม บางทีอาจด้วยเจตนายั่วยุ บางทีด้วยความประสงค์จะก่อกวนและวางผิดที่... ประเด็นก็คือใยแมงมุมแห่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเรา ซึ่งถักทอขึ้นเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักที่เป็นไปไม่ได้ในแสงสว่างของเราเติบโตขึ้น ทำหน้าที่เพื่อให้พล็อตเชื้อเชิญ เรายังคงก้าวต่อไปผ่านใยแมงมุมในขณะที่มันดักจับเราอย่างเอาคืนไม่ได้
เพราะขอต้องห้ามตราบเท่าที่มนุษย์มีเหตุผล และไม่มีใครให้ตัวเองอย่างกระตือรือร้นต่อสิ่งต้องห้ามมากไปกว่าคนที่รู้สึกโดดเดี่ยว ถูกสภาพแวดล้อมของพวกเขาทารุณ จากสภาพการถูกสาปสำหรับสถานการณ์ของพวกเขา ตัวเอกได้ฉีกข้อตกลงทางสังคมที่จบลงด้วยการทำให้พวกเขาอยู่ชายขอบในธรรมชาติของพวกเขาในฐานะเหยื่อหลักประกัน อยากรู้ว่าในความเรียบง่ายที่ชัดเจนของเธอ ในความลื่นไหลของฉากของเธอ ผู้เขียนได้หว่านเมล็ดพันธุ์ที่มีอยู่จากการอยู่เหนือของภาพที่น่ารำคาญของเธอ
หนังสือแนะนำอื่นๆ โดย Sara Mesa...
สี่ต่อสี่
นวนิยายเรื่องนี้จัดวางเป็นภาพโทเปีย กระจกเงา สัญลักษณ์ของวิวัฒนาการทางสังคม ทำให้เราอยู่ในสถานการณ์พิเศษของผู้สังเกตสภาพแวดล้อมที่ปิดทั้งหมด โลกใบเล็กที่กลายเป็นแบบจำลองขนาดเล็กของจักรวาลทางสังคมทั้งหมด
เราเข้าไปอยู่ใต้ธรณีประตูทางเข้าที่เงียบขรึมของ Wybrany College ด้วยความรู้สึกก้าวผ่านโลกใหม่ที่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด และเรากำลังทำความรู้จักกับการแบ่งชั้นทางสังคมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองด้วยขอบฟ้าของความลึกลับที่น่ารำคาญ มันจะเป็นอย่างอื่นได้อย่างไรเมื่อเราเหลือบเห็นกลไกสำคัญของทุกคนและความสนใจพื้นฐานของพวกเขา การศึกษา การฝึกอบรมสำหรับเด็กชายและเด็กหญิงที่ชี้ให้เห็นถึงความหวังสำหรับโลกที่เสื่อมโทรม
เด็กพิเศษที่มีความหวังในอนาคตที่เป็นไปได้ พฤติกรรมนิยมตั้งแต่วินาทีที่กำแพงและประตูถูกปิด และจิตวิญญาณที่ดื้อรั้นตลอดกาลของผู้ต้องขังอย่างซีเลียและเพื่อนคนอื่นๆ ที่ต้องการออกจากพื้นที่สีเทาอันน่าอึดอัดนั้น เพราะตามเหตุผลแล้ว มีบางสิ่งที่เราไม่รู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของ Wybrany College แม้ว่าเราจะสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดที่นำไปสู่ความเหินห่าง ความแปลกแยก การพยายามใช้ความรุนแรง จนในที่สุดแสงสว่างแห่งความเข้าใจก็สว่างไสวจนแทบมองไม่เห็น
แผลเป็น
นวนิยายที่กลั่นกรองทุกสิ่งด้วยความเหินห่างเพื่อจบลงด้วยการค้นพบความขัดแย้งและการแบ่งขั้วที่เคลื่อนประเด็นสำคัญๆ เช่น ความรักหรือชีวิตประจำวัน
ซอนย่าและคนัต สองตัวละครที่ตอบสนองวิสัยทัศน์ที่เหินห่างของพวกเขาเกี่ยวกับโลก ซึ่งกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูด แต่อย่างน้อยจากมุมมองของโซเนีย ยังได้สัมผัสถึงความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าต่อหน้าบุคลิกที่สมมาตรกับตัวตนของพวกเขาเช่นเดียวกับคนัต เพราะเขาผู้แปลกหน้าคนนั้นที่เข้ามาในชีวิตจากความมีอยู่อันไกลโพ้นของ PI เผยให้เห็นวิสัยทัศน์ของเขาในโลกที่น่าหลงใหลราวกับผิดปกติ วิถีทางนั้นในโลกลืมแนวทางทางศีลธรรม ทัศนคติที่ควบคุมด้วยอำนาจของใคร เขาคิดว่าเขารู้ความจริงต่างแดนไปทั่วโลก
คนัตพูดถูกและมีเหตุผลมากจนทำให้โซเนียรู้สึกว่าเต็มไปด้วยความเป็นจริงของเธอ การหนีจากเขาเป็นสิ่งล่อใจที่เอาชนะได้ แต่เมล็ดพันธุ์แห่งความคลาดเคลื่อนซึ่งจำเป็นต่อการหลบหนีนั้นได้หว่านลงแล้ว และชีวิตของโซเนียจะก้าวหน้าผ่านรูปแบบการปฏิเสธชั่วคราวเมื่อเผชิญกับสิ่งที่กำหนด
ด้วยข้อสังเกตเกี่ยวกับแรงจูงใจในการเข้าสู่อาชีพการเขียน รอบๆ เขาวงกตที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาแรงจูงใจภายในมากที่สุด ความสัมพันธ์ของความรักและความผูกพันระหว่าง Sonia และ Knut ได้นำเราไปสู่แง่มุมทางปรัชญาและอภิปรัชญาในสังคมที่เย็นชาที่ละทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การแสร้งทำเป็นมีญาณทิพย์ แต่นอกเหนือจากแง่มุมทางปรัชญาที่ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับพันแง่มุม แม้ว่าจะถูกกรองโดยความคล่องแคล่วของโครงเรื่อง สถานการณ์ก็แตกต่างกันไประหว่างสิ่งที่เหมือนฝันและเรื่องแปลก ไปสู่แนวทางที่น่าประหลาดใจในการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่องของพวกมัน
